ปฏิทิน

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553

ดอกยี่หุบ




ชื่อวิทยาศาสตร์ Magnolia coco
ตระกูล Magnoliaceae
ชื่อสามัญ Yee-Hoop
ถิ่นกำเนิด เอเชียเขตร้อน




ลักษณะทั่วไป
ยี่หุบ เป็นไม้พุ่มเตี้ย สูง 2-4 เมตร แตกกิ่ง ใบอยู่เป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง ใบเป็นใบเดี่ยว รูปใบหอกใบหนาแข็งสีเขียวสดเข็ม
เป็นมันเป็นมันเนื้อใบแข็งกระด้างใบรูปรีปลายแหลมและโคนโบแหลมยาวประมาณ 5 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อห้อยตามปลายกิ่ง
ช่อละ 5- 8 ดอกดอกสีเหลืองอ่อนนวลก้านดอกยาว1-2 ซม.ดอกที่เริ่มแย้มจะคว่ำลงกลีบดอกงองุ้มเข้าหากันและแข็งหนาทับ
ซ้อนกัน 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ กลีบดอกหนาและอวบน้ำ กาบรองดอกเป็นสีเขียวนวลเวลาบานเต็มที่คล้ายกลีบดอกชั้นนอก
ดอกยาวประมาณ 3 ซม. มีกลิ่นหอมจัดเวลาเย็นหรือช่วงพลบค่ำถึงเช้ามืดแล้วโรยในตอนบ่าย เมื่อดอกบานมีเส้นผ่าน
ศูนย์กลาง 4-5 ซม. ยี่หุบ เป็นพันธุ์ไม้ของไทยแท้ชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ แม็กโนเลีย ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวางในโลกมาก
นัก พืชในวงศ์นี้อาจมีไม่เกิน 100 พันธุ์ ซึ่งรวมถึง จำปี จำปา มณฑา และมณฑาดอย ด้วย



ฤดูกาลออกดอก
มีดอกตลอดทั้งปี

สภาพการปลูก
ยี่หุบ ชอบดินร่วนซุยและชุ่มชื้น สามารถทนอยู่ได้ในสภาพดินแฉะ

การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์โดยการ เพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง

การปลูกและดูแลรักษา
การปลูกยี่หุบ ยี่หุบไม่ชอบแสงแดดมาก ควรปลูกไว้ในที่ร่มแสงแดดรำไร ดินที่ใช้ปลูกต้องร่วนซุย
การปลูกในพื้นที่สูง เช่น ภูเขาหรือบนดอย พบว่ามีดอกดกใหญ่ และมีกลีบดอกหนาแข็งกว่า

ดอกเทียนบ้าน



ชื่อวิทยาศาสตร์ Impatiens Balsamina L.
ตระกูล Balsaminaceae
ชื่อสามัญ Garden Balsam
ถิ่นกำเนิด อินเดียและแอฟริกา



ลักษณะทั่วไป
เทียนบ้านเป็นพรรณไม้พวกคลุมดินไม้ดอกอายุสั้น พุ่มสูง 30-75 ซม.ลำต้นจะอุ้มน้ำ ลำต้นจะไม่ตั้งตรงขึ้นไป จะเอียงเล็กน้อย
เปราะง่าย ใบมีลักษณะมนรี ปลายแหลม ดอกนั้นจะมีหลายสี เช่น สีชมพู สีแดงม่วงส้มและขาวเป็นดอกเดี่ยวจะออกติดกันช่อ
หนึ่ง อาจะจะมี 2-3 ดอกกลีบดอกจะซ้อน ๆ กันเป็นวงกลม มีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ กลีบด้านล่างงอเปราะมีจะงอยยื่น
ออกมาเป็นหลอดเล็ก-ยาว ปลายโค้งขึ้น ขนาดดอก 3-6 ซม.มีเมล็ดกลมสีน้ำตาลเข้ม


ฤดูกาลออกดอก
ดอกทยอยบานในช่วงฤดูฝน ดอกบานนานประมาณ 1 เดือน


สภาพการปลูก
เทียนบ้านเป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดอ่อน ๆ ควรปลูกไว้ในที่ร่มรำไร ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนซุยมีธาตุอาหารสมบูรณ์


การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์โดยเพาะมล็ด และการปักชำ


การปลูกและดูแลรักษา
เทียนบ้านปลูกเลี้ยงง่าย โตเร็ว ควรปลูกไว้ในที่ร่มรำไรและให้น้ำปานกลาง ถ้าปลูกไว้ในที่แสงแดดจัดจำเป็นต้องรดน้ำบ่อยครั้ง




ดอกลีลาวดี



ชื่อวิทยาศาสตร์ Plumeria spp.
ตระกูล Apocynaceae
ชื่อสามัญ Frangipani,Pagoda,Temple
ถิ่นกำเนิด เม็กซิโกใต้ถึงตอนเหนือทวีปอเมริกาใต้



ลักษณะทั่วไป

ลีลาวดี เป็นไม้ยืนต้น มีขนาดจากที่เป็นพุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ0.6 เมตร จนถึงต้นใหญ่มากอาจที่สูงได้ถึง 12 เมตร ลำต้นแผ่กิ่งก้านสาขาและพุ่มใบสวยงาม มีน้ำยางขนสีขาวเป็นพันธุ์ไม้ที่สลัดใบในฤดูแล้งก่อนที่จะผลิดอกผลิใบรุ่นใหม่ชนิดและพันธุ์ที่มีลักษณะดี ต้องมีทรงพุ่มแน่น มีกิ่งก้านสาขามาก ใบดกที่ปลายกิ่ง มีช่อดอกใหญ่ กิ่งที่ยังไม่แก่มีสีเขียวออ่นนุ่ม กิ่งที่แก่มีสีเทามีรอยตะปุ่มตะป่ำ ใบ เป็นใบเดี่ยวมีการเรียงตัวสลับกันและหนาแน่นใกล้ๆปลายกิ่ง มีตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตกต่างกันตั้งแต่ 5-20 นิ้ว ช่อดอก จะถูกผลิตออกมาจากปลายยอดเหนือใบแต่กก็มีบางชนิดที่ออกช่อดอกระหว่างใบหรือออกดอกใต้ใบ ช่อดอกบางชนิดตั้งขึ้น บางชนิดห้อยลง ใน 1 ช่อดอกจะมีดอกบานพร้อมกัน 20-30 ดอก บางต้นสมบูรณ์เต็มที่อาจมีดอกมากกว่า 100 ดอก ต่อ 1 ช่อ ดอกโดยทั่วไป กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย อยู่ลึกเข้าไปข้างใน ดอกของ ลีลาวดีมีสีสรรหลากหลาย ทั้ง ขาว แดง เหลือง ชมพู ส้ม ม่วง สีทอง มีกลิ่นหอมต่างๆกันไปในแต่ละชนิด ดอกมีขนาด 2 - 6 นิ้ว มีกลิ่นหอม ผล เป็นฝักคู่ รูปยาวรี กว้างประมาณ 1.5 - 15 ซม. เมื่อแก่แตกเป็น 2ซีก เมล็ดมีจำนวนมาก เมล็ดแบนมีปีก ลีลาวดีมีช่วงชีวิตที่ยาวนานนับ 100 ปี

ฤดูกาลออกดอก

ออกดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธุ์-เมษายน บางพันธุ์ออกดอกตลอดปี เช่น ขาวพวง

สภาพการปลูก

ลีลาวดี เป็นไม้กลางแจ้ง ชอบแสงแดด ทนต่อความแห้งแล้ง ไม่ชอบน้ำมาก ดินที่เหมาะสมในการปลูกลีลาวดี ควรมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย ส่วนดินเหนียวหรือดินที่มีเนื้อดินละเอียดหนักซึ่งน้ำขังง่าย จะทำให้รากเน่า โคนเน่าได้ ลีลาวดีจะเจริญเติบโตในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงหากไม่ได้รับแสงแดดเต็มที ก็จะไม่ออกดอก แต่บางพันธุ์ก็ไม่ต้องการแสงแดดจัดในช่วงบ่าย

การขยายพันธุ์

ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด,การปักชำกิ่งการขยายพันธุ์แบบนี้จะไม่มีรากแก้ว,การเสียบยอดพันธุ์ดีสามารถทำให้ในหนึ่งต้น เสียบยอดให้ได้ดอกหลายสีได้ ,และการขยายพันธุ์โดยการติดตา